
วิธีเช็คประกัน Apple อย่างง่าย เช็คได้ด้วยตัวเอง
หากคุณเป็นผู้ใช้ iPhone, iPad, MacBook, Apple Watch หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ของ Apple และต้องการตรวจสอบว่าอุปกรณ์ของคุณยังอยู่ในระยะประกันหรือไม่ วันนี้ Yukifix มีวิธีง่าย ๆ ในการ เช็คประกัน Apple ด้วยตัวเอง พร้อมคำแนะนำเกี่ยวกับการใช้ประกันให้เกิดประโยชน์สูงสุด
1. เช็คประกัน Apple ผ่านเว็บไซต์ Apple
Apple มีเครื่องมือออนไลน์ที่ช่วยให้คุณตรวจสอบสถานะประกันของอุปกรณ์ได้ง่าย ๆ โดยมีขั้นตอนดังนี้:
ขั้นตอนเช็คประกัน Apple ผ่านเว็บไซต์
- ไปที่เว็บไซต์ Apple – เข้าไปที่ https://checkcoverage.apple.com
- กรอกหมายเลข Serial Number – สามารถดูได้ที่ “การตั้งค่า > ทั่วไป > เกี่ยวกับ” (Settings > General > About)
- กรอกรหัสยืนยัน เพื่อยืนยันว่าเป็นมนุษย์
- กดปุ่ม “Continue” (ดำเนินการต่อ)
- ระบบจะแสดงข้อมูลการรับประกันของอุปกรณ์ เช่น
- สถานะการรับประกัน Apple Limited Warranty
- สถานะ AppleCare+ (หากซื้อเพิ่ม)
- ความคุ้มครองในการซ่อมฮาร์ดแวร์และบริการโทรศัพท์
2. เช็คประกัน Apple ผ่าน iPhone หรือ iPad
หากไม่สะดวกเข้าเว็บไซต์ คุณสามารถ เช็คประกันได้โดยตรงจาก iPhone หรือ iPad ของคุณเองได้ง่าย ๆ ดังนี้:
- เข้าไปที่ “การตั้งค่า” (Settings)
- เลือก “ทั่วไป” (General)
- กด “เกี่ยวกับ” (About)
- แตะที่ “การรับประกัน” (Coverage)
- ระบบจะแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับการรับประกันของอุปกรณ์ เช่น วันที่หมดประกันและสิทธิ์การรับบริการ AppleCare+
3. เช็คประกัน Apple ผ่านแอป Support
Apple มีแอป Support ที่ช่วยให้คุณตรวจสอบประกันของอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับบัญชี Apple ID ของคุณได้
วิธีเช็คผ่านแอป Support:
- ดาวน์โหลดและเปิด แอป Apple Support จาก App Store
- ลงชื่อเข้าใช้ด้วย Apple ID ของคุณ
- เลือกอุปกรณ์ที่ต้องการเช็คประกัน
- ระบบจะแสดงข้อมูลเกี่ยวกับสถานะการรับประกัน และบริการที่ครอบคลุม
4. เช็คประกัน Apple ผ่าน MacBook หรือ iMac
หากคุณใช้งาน MacBook หรือ iMac สามารถเช็คประกันได้ดังนี้:
- คลิกที่โลโก้ Apple ที่มุมซ้ายบนของหน้าจอ
- เลือก “About This Mac” (เกี่ยวกับ Mac นี้)
- คลิกที่ “Service” (บริการ) หรือ “Support”
- ระบบจะแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับประกันของอุปกรณ์
ประเภทการรับประกันของ Apple และสิ่งที่ครอบคลุม
Apple มีประเภทการรับประกันหลัก ๆ ดังนี้:
- Apple Limited Warranty (การรับประกันมาตรฐาน)
- ครอบคลุม 1 ปี จากวันที่ซื้อ
- คุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากความผิดพลาดของการผลิตหรือฮาร์ดแวร์
- ไม่ครอบคลุมอุบัติเหตุ เช่น ตกน้ำ หน้าจอแตก
- AppleCare+ (การรับประกันเพิ่มเติม)
- สามารถซื้อเพิ่มได้ภายใน 60 วันหลังจากซื้ออุปกรณ์
- ขยายระยะเวลารับประกันเป็น 2-3 ปี ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์
- ครอบคลุมอุบัติเหตุ เช่น หน้าจอแตก แบตเสื่อม น้ำเข้า (แต่มีค่าธรรมเนียมซ่อมลดพิเศษ)
ต้องทำอย่างไรหากอุปกรณ์หมดประกัน?
หากตรวจสอบแล้วพบว่าอุปกรณ์ของคุณ หมดระยะประกัน ไม่ต้องกังวล! Yukifix มีบริการซ่อมอุปกรณ์ Apple ทุกรุ่นในราคาคุ้มค่า พร้อมการรับประกันหลังซ่อม
บริการซ่อมของ Yukifix
- เปลี่ยนหน้าจอ iPhone / iPad – ใช้อะไหล่คุณภาพสูง รับประกันการใช้งาน
- เปลี่ยนแบตเตอรี่ – สำหรับ iPhone, iPad, MacBook และ Apple Watch
- ซ่อมพอร์ตชาร์จ / ระบบชาร์จไฟ – แก้ปัญหาชาร์จไม่เข้า ซ่อมเร็ว รอรับได้เลย
- ซ่อมเมนบอร์ด / ชิปเซ็ต – สำหรับอาการเครื่องเปิดไม่ติด รีสตาร์ทเอง
- เปลี่ยนอุปกรณ์อะไหล่แท้ – รับประกันอะไหล่คุณภาพสูงทุกชิ้น
ทำไมต้องเลือกซ่อมกับ Yukifix?
✅ ช่างผู้เชี่ยวชาญ Apple – มีประสบการณ์ซ่อมอุปกรณ์ Apple โดยตรง
✅ ใช้อะไหล่แท้และเกรดพรีเมียม – เพื่อให้การใช้งานเหมือนเครื่องใหม่
✅ รับประกันหลังซ่อม 3-6 เดือน – มั่นใจได้ในคุณภาพการซ่อม
✅ ราคาคุ้มค่า ไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง – แจ้งราคาก่อนซ่อม
✅ ซ่อมเร็ว รอรับได้เลย – เปลี่ยนแบต / หน้าจอ ใช้เวลาเพียง 30-60 นาที
ติดต่อ Yukifix วันนี้!
หากคุณต้องการ ตรวจสอบประกัน Apple หรือซ่อมอุปกรณ์ Apple Yukifix พร้อมให้บริการโดยทีมช่างมืออาชีพ